NASA จับมือ Minecraft สร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ผ่านเกม

NASA จับมือ Minecraft สร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ผ่านเกม

องค์การนาซา (NASA) จับมือเกมไมน์คราฟต์ (Minecraft) จำลองการสร้างและปล่อยจรวดลงในเกมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นที่เป็นเด็ก

องค์การนาซา (NASA) ได้จำลองการสร้างและปล่อยจรวดลงในเกมไมน์คราฟต์ (Minecraft) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นที่เป็นเด็ก อีกทั้งผู้เล่นยังจะได้เรียนรู้วิศวกรรมจรวดและกลไกพื้นฐานในการสร้างและปล่อยจรวด ซึ่งจำลองมาจากภารกิจอาร์เทมิส (Artemis) อันเป็นภารกิจที่นาซาจะส่งมนุษย์กลับไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้ง

เด็ก

โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสเต็ม เอนเกจเม้นต์ (STEM Engagment) ของนาซาที่มีจุดประสงค์ในการให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมและคณิตศาสตร์

บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารของนาซากล่าวว่า “นาซามุ่งมั่นที่จะเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างที่สุดและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นอาร์เทมิส เตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับภารกิจแห่งอนาคต”

โดยไมน์คราฟต์ได้สร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมา 2 โลก อิงจากภารกิจอาร์เทมิสในโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงการจำลองทีมนักบินอวกาศ, ผู้หญิงคนแรกและมนุษย์ผิวสีคนแรกที่จะถูกส่งไปลงจอดบนดวงจันทร์ด้วย

ภารกิจอาร์เทมิส (Artemis) คืออะไร ?

ในส่วนของภารกิจอาร์เทมิสเป็นภารกิจที่นาซาจะส่งมนุษย์กลับไปลงจอดบนดวงจันทร์อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ภารกิจอะพอลโล 17 (Apollo 17) อันเป็นภารกิจสุดท้ายของโครงการอะพอลโล (Apollo Program) ที่ส่งนักบินอวกาศไปลงจอดบนดวงจันทร์แต่ในภารกิจอาร์เทมิสจะไม่ได้เป็นเพียงภารกิจลงจอดธรรมดาเท่านั้น โดยจะมีการส่งลูนาร์ เกตเวย์ (Lunar Gateway) ไปโคจรรอบดวงจันทร์สำหรับเป็นที่ทำงานของนักบินอวกาศคล้ายกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ที่โคจรอยู่รอบโลก รวมถึงการสร้างลูนาร์ เบต แคมป์ (Lunar Base Camp) สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาวอย่างน้อย 6 เดือน ของนักบินอวกาศบนดวงจันทร์

การสร้างแรงบันดาลใจผ่านเกมสุดฮิตของเด็ก

สำหรับเกมไมน์คราฟต์เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กและเยาวชน ซึ่งเหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 8 ปี ขึ้นไป โดยถือเป็นกลุ่มคนรุ่นอาร์เทมิสอย่างที่บิล เนลสันกล่าวเพราะคนกลุ่มนี้จะเติบโตมาระหว่างที่นาซาส่งภารกิจอาร์เทมิสไปยังดวงจันทร์ ส่งผลให้คนกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญในอนาคตสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ นาซาจึงให้ความสนใจกับการสร้างแรงบันดาลใจและองค์ความรู้ให้กับคนกลุ่มนี้นั่นเอง

ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ : ถึงกับเสียงหลง เมื่อลูกสาวคลั่งศิลปิน K-Pop คุณพ่อเลยแกงแบบนี้ ไปไม่เป็นเลย

ถึงกับเสียงหลง เมื่อลูกสาวคลั่งศิลปิน K-Pop คุณพ่อเลยแกงแบบนี้ ไปไม่เป็นเลย

ถึงกับเสียงหลง เมื่อลูกสาวคลั่งศิลปิน K-Pop คุณพ่อเลยแกงแบบนี้ ไปไม่เป็นเลย

เมื่อลูกสาวคลั่งรักศิลปินเกาหลีมากๆ ถึงกับซื้อของสะสมมาเก็บไว้เต็มบ้านคุณพ่อเลยแอบแกงน้องเบาๆ จนน้องถึงกับร้องเสียงหลงเลยทีเดียว เพราะคุณพ่อแกงได้จี้จุดมาก

ถึงกับเสียงหลง

เรื่องราวความฮาในครั้งนี้ถูกแชร์โดยผู้ใช้งาน TikTok บัญชี lnwbird โดยคุณพ่อได้แชร์คลิปสุดฮาในการแกงลูกสาวที่คลั่งไคล้ศิลปินเกาหลีได้แบบดูแล้วต้องขำในความขี้เล่นของคุณพ่อ

โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าคุณพ่อได้แอบบ่นลูกสาวว่าเอาแต่ซื้อของสะสมของศิลปินเกาหลี มาเต็มบ้าน น่าจะใช้เงินเยอะมาก เป็นของที่ไม่มีความจำเป็น ซึ่งวงศิลปินที่ว่านั่นก็คือ BTS ศิลปิน K-Pop ที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั่นเอง คุณพ่อยังเสริมต่อว่า คลั่งไคล้มาก ติดไปโรงเรียนทุกวัน งั้นพ่อจะจัดให้ คุณพ่อเลยเอารูปตัวเองแอบเข้าไปใส่ในช่องใส่การ์ดที่ห้อยติดอยู่กับเคสหูฟัง แล้วหรอให้น้องมาเห็น

และเมื่อคุณพ่อเรียกน้องลงมาดูของสะสมตัวเองแล้วน้องก็อธิบายว่าใช้เงินตัวเองซื้อและเมื่อจับไปที่ที่ใส่การ์ดแล้วเห็นรูปคุณพ่ออยู่ด้านหลัง น้องจึงร้องเสียงหลงเลยว่า “พ่ออออออออออ พ่อไม่เอาาาาาาา” คุณพ่อจึงขำหนักและบอกกับน้องว่าให้ติดแบบนี้ไปโรงเรียนเลย

หลังจากที่คลิปของคุณพ่อถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นคลิปไวรัลสุดฮาที่มียอดผู้เข้าชมมากกว่า สี่แสนครั้งภายใน 24 ชั่วโมง และยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาขำไปกับความแกงของคุณพ่ออย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น “นั่น BTS รูปด้านหลังน่าจะ MRT”, “ลูกร้องเสียงหลงเลยตอนพลิกเจอรูป”, “ลูกถึงขั้นร้องอย่างสิ้นหวัง” รวมไปถึง “อาการกรี๊ด ผวา กับ คลั่งไคล้ เส้นบางๆแค่นิดเดียวเองเนอะคุณพ่อ”

ติดตามข่าวเด็กแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ : เปิดเทอมทีไร ทำไมลูกป่วยทุกที ทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัย

เปิดเทอมทีไร ทำไมลูกป่วยทุกที ทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัย

ในทางปฏิบัติแล้ว การเว้นระยะห่างทางสังคมแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ เพราะเวลาเจอกัน

เด็กๆ ก็มักจะต้องเข้าหากัน วิ่งเล่นด้วยกัน สัมผัสถูกตัวกัน ดังนั้น โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปถึงอีกคนหนึ่งจึงเป็นเรื่องง่ายเด็กควรให้ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะมีส่วนทำให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทาน และเด็กๆ ที่ขาดวิตามินควรได้รับวิตามินรวมและวิตามินซี พร้อมทั้งปฏิบัติตามหลัก New normal เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคต่าง ๆหลังจากเปิดเทอมไปแค่ไม่กี่วัน ลูกๆ ก็ไม่สบาย ต้องหยุดเรียนอีกแล้ว ปัญหาเดิมๆ คือ ลูกป่วย คุณพ่อคุณแม่ก็กลุ้มใจ ไม่รู้จะทำยังไง ใส่หน้ากากก็แล้ว ล้างมือก็แล้ว ทำไมลูกยังป่วยได้อีกก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่โรงเรียนก็มีมาตรการในการรักษาความสะอาดตามวิถีนิว นอร์มอลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้นักเรียนทุกคนใส่หน้ากาก การวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน หรือแม้กระทั่งการมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะเรียน แต่ลูกๆ ก็ยังป่วยอยู่ดี

เปิดเทอมทีไร ทำไมลูกป่วยทุกที

การใส่หน้ากากอนามัย (mask for kid) ช่วยป้องกันโรคได้แค่ไหนหลังจากเกิดแนวทางปฏิบัติต่างๆ ในโรงเรียน หรือ New normal ของเด็กๆ รวมถึงมาตรการของโรงเรียนเอง ที่ต้องทั้งเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย หรือแม้กระทั่งบางโรงเรียนมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะเรียนก็ตาม พ่อแม่ยังคงเจอกับปัญหาลูกป่วย ลูกไม่สบาสาเหตุที่ลูกป่วยทั้งที่ใส่หน้ากากอนามัย เกิดจากอะไรหน้ากากอนามัย เด็กๆ อาจจะไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ เด็กก็อาจจะถอดเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กๆ โอกาสที่จะถอดหน้ากากออกเองก็ยิ่งมีสูงขึ้น เพราะความไม่คุ้นชิน ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เด็กๆ สูดอากาศที่มีเชื้อหวัดปนอยู่เข้าไปการเว้นระยะห่างทางสังคม Social distancing หรือ Physical distancing ในทางปฏิบัติแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยโดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ เพราะเวลาเจอกัน เด็กๆ ก็มักจะต้องเข้าหากัน วิ่งเล่นด้วยกัน สัมผัสถูกตัวกัน ดังนั้น โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปถึงอีกคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสภาพอากาศ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เป็นฤดูฝน บวกกับลม ส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งเชื้อโรคเองก็ชอบอากาศแบบนี้ เพราะจะช่วยให้พวกมันเจริญเติบโตได้ดีโรคประจำตัวของเด็ก เช่น ภูมิแพ้ ยิ่งในสภาพอากาศในหน้าฝน ก็อาจจะทำให้อาการของโรคที่มีอยู่แล้วกำเริบขึ้นได้แนวทางป้องกัน พ่อแม่จะรับมืออย่างไรเมื่อลูกป่วย